ดอกไม้นานาชาติ
วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556
ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่สีขาว แทนความรักที่บริสุทธิ์ใจ ขาวสะอาด อ่อนหวาน จริงใจ และนับถือ?ดอกลิลลี่สีชมพูแสดงถึงการค้นหาเสาะหาหรือตามความรักเมื่อเจอความรักจะเป็นความรักที่ดีที่สุด และความรักที่จริงใจ?ดอกลิลลี่สีส้มเปรียบเสมือนความร่าเริง สดใส ความปิติสุขที่ได้อยู่ใกล้?ดอกลิลลี่สีเหลืองที่แสดงออกถึงความอบอุ่นห่วงใยของความรักที่มั่นคง หนักแน่นไปด้วยรักที่อบอุ่น ชอบเป็นห่วง และดอกลิลลี่ เป็นดอกที่เราสามารถมอบให้คนที่เรารักได้ไม่น่าแพ้ดอกกุหลาบเลยทีเดียวเพราะ สีของดอกลิลลี่เหล่านี้มันมีคำบรรยายที่ใช้บอกแทนความในใจได้ดอกลิลลี่มักนิยมใช้กันตามงานเลี้ยงหรืองานแต่งเพราะเป็นดอกลิลลี่ที่มีความสวยงาม
ดอกลินลี่สีชมพู(pink lilly) แสดงออกถึงการค้นหาความรักที่ดีที่สุดแล้วพบเจอมัน เป็นดอกไม้ที่ผสมผสานอารมณ์ของความรักได้
อย่างลงตัว สื่อถึงความรักความจริงใจที่มี
ดอกลิลลี่สีส้ม (orange lilly) แสดงออกถึงความร่าเริง สดใส ความปิติสุขที่ได้อยู่ใกล้
เป็นดอกไม้ที่นำความน่ารักและความสดใสมารวมกันอย่างพอดี
ดอกลิลลี่สีเหลือง (yellow lilly) แสดงออกถึงความอบอุ่นที่ห่วงใย ของความรักที่มั่นคง แสดงออกถึงความห่วงใย ห่วงหาอาทร เป็นดอกไม้ทสื่อความหมายได้อย่างลึกซึ้ง
ดอกทิวลิป
ที่มาของชื่อ
แม้ว่าทิวลิปจะเป็นดอกไม้ที่ทำให้นึกถึงฮอลแลนด์
แต่ทั้งดอกไม้และชื่อมีที่มาจากจักรวรรดิเปอร์เชีย ทิวลิป เช่นเดียวกันที่เรียกกันในตุรกี เป็นดอกไม้ท้องถิ่นของตุรกี, อิหร่าน, อัฟกานิสถาน
และบางส่วนของเอเชียกลาง
แม้ว่าจะไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้นำทิวลิปเข้ามาทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปแต่ที่สำคัญคือตุรกีเป็นผู้ทำให้ทิวลิปมีชื่อเสียงที่นั่น
เรื่องที่เป็นที่ยอมรับกันก็คือ Oghier
Ghislain de Busbecqไปเป็นราชทูตของสมเด็จพระจักรพรรดิเฟอร์ดินานด์ที่
1
แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในราชสำนักของสุลต่านสุลัยมานมหาราชแห่งจักรวรรดิออตโตมันในปี
ค.ศ. 1554 Busbecq บรรยายในจดหมายถึงดอกไม้ต่างๆ
ที่เห็นที่รวมทั้งนาร์ซิสซัส ดอกไฮยาซินธ์
และทิวลิปที่ดูเหมือนจะบานในฤดูหนาวที่ดูเหมือนผิดฤดู (ดู Busbecq, qtd. in Blunt, 7) ในวรรณคดีเปอร์เชียทั้งสมัยโบราณและสมัยใหม่ต่างก็ให้ความสนใจกับดอกไม้ชนิดนี้
คำว่า “tulip” ที่ในภาษาอังกฤษสมัยแรกเขียนเป็น
“tulipa” หรือ “tulipant” เข้ามาในภาษาอังกฤษจากฝรั่งเศสที่แผลงมาจากคำว่า “tulipe” และจากคำโบราณว่า “tulipan”
หรือจากภาษาลาตินสมัยใหม่ “tulīpa” ที่มาจากภาษาตุรกี “tülbend”
หรือ “ผ้ามัสลิน” (ภาษาอังกฤษว่า
“turban” บันทึกเป็นครั้งแรกในภาษาอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 16
และอาจจะมาจากภาษาตุรกีอีกคำหนึ่งว่า “tülbend”
ก็เป็นได้)
ทิวลิปในประเทศไทย
ในประเทศไทย สำนักงานเกษตรที่สูงดอยผาหม่น
ได้ปลูกดอกทิวลิป ในพื้นที่เกษตรที่สูง
ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ตั้งปี พ.ศ. 2549 เพื่อการท่องเที่ยว
ความหมายของดอกทิวลิป
ทิวลิปสีแดง - ความมั่นคงในความรัก
ความจริงจังและจริงใจของผู้ให้ ความซื่อสัตย์และรักอย่างหมดหัวใจ
ทิวลิปสีเหลือง -
เป็นสัญลักษณ์แห่งความผิดหวัง
กุหลาบม่วง
ประวัติดอกกุหลาบ
กุหลาบ มาจากคำว่า " คุล "
ในภาษาเปอร์เชีย แปลว่า " สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ "
เข้าใจว่าจากเปอร์เซียได้แพร่เข้าไปในอินเดีย เพราะในภาษาฮินเดียมีคำว่า "
คุล " แปลว่า " ดอกไม้ " และคำว่า " คุลาพ "
หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น " กุหลาบ " ส่วนคำว่า
"Rose" มาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก
ดังนั้นกุหลาบพันปีหรือกุหลาบป่าไทยก็คือต้น Rhodo นั่นเอง
กุหลาบเป็นไม้ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
อาจเป็นเพราะเป็นดอกไม้ที่มีสีสวย ไม่ใช่แค่สีเดียวในหนึ่ง
บางดอกให้เฉดสีสวยงามอย่างยากที่ศิลปินใดจะวาดเลียนแบบได้
ส่วนกลิ่นหอมที่แตกต่างแต่ละสายพันธุ์ก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจและยังสามารถ
บังคับให้ออกดอกได้ตามจังหวะเวลาที่ต้องการตามเทศกาลที่สำคัญๆอย่างง่ายมาก
กุหลาบถูกนำไปเป็นสัญญลักษณ์ของสิ่งต่างๆมากมาย
โดยเฉพาะเรื่องของความรัก มีกุหลาบชื่อภาษฮังกฤษว่า My Valentine นำเข้ามาปลูกในบ้านเรานานแล้ว เป็นกุหลาบลูกผสมระหว่าง Little chief กับ Little Curt นำออกมาเผยแพร่ครั้งแรกตั้งแต่ปีพ . ศ .2518
กุหลาบพันธุ์นี้ออกเป็นช่อหลายดอกในกิ่งเดียว
มีสีแดงอมส้มสดกลิ่นหอมอ่อนมากจนอาจไม่ได้กลิ่น ใบมีสีเขียวเข้มตัดกับสีดอก นิยม
ปลูกเป็นไม้กระถางไม่นิยมตัดดอกขาย
นอกจากการให้กุหลาบในวันวาเลนไทน์แล้ว การให้กุหลาบสีอะไร
เสมือนระบุความหมายเป็นนัยๆอีกด้วยเช่นถ้าสีแดงหมายถึงสีที่แสดงถึงความรัก
ส่วนจำนวนดอกที่ให้ก็แสดงความรักเช่นกัน
กฏเกณฑ์พวกนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งคนเริ่ม แต่สรุปว่าให้หนึ่งดอกนั้นคือรักแรกพบ
สามดอกแค่รักคุณ สำหรับ 999 ดอกรักคุณจนความตายมาพรากเราจากกัน
ดอกกล้วยไม้
ดอกกล้วยไม้เป็นดอกสมบูรณ์เพศ
คือ เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอก เดียวกัน ดอกกล้วยไม้
ประกอบด้วยกลีบดอกวงนอก 3 กลีบ
และกลีบดอกวงใน 3 กลีบ ลักษณะของกลีบดอกกล้วยไม้จะแตกต่างกันไป
ตามชนิดของกล้วยไม้
กล้วยไม้บางชนิดอาจมีกลีบดอกขนาดใหญ่ สีสวย แต่บางชนิดมีกลีบแคบ สีไม่สวยส่วน
ของกลีบวงนอกหรือกลีบนอกนั้นจะเป็นส่วน
ที่หุ้มดอกในระยะดอกตูม กลีบนอกมักจะมีลักษณะคล้ายกันทั้ง 3 กลีบ
โดยกลีบ ในคู่หนึ่งจะมีลักษณะเหมือนกัน
ส่วนกลีบในกลีบที่สามจะมีลักษณะแตกต่างไปเรียกว่าปาก หรือกระเป๋า
(Lip)ซึ่งมีประโยชน์สำหรับล่อแมลงเพื่อช่วยผสมพันธุ์ส่วนประกอบของดอกมีส่วนของก้านเกสรตัวผู้
ก้านเกสรตัว
เมียและยอดเกสรตัวเมียรวมกันเป็นอวัยวะเดียวกันยื่นออกมาตรงใจกลางของดอก
มีอับเกสรตัวผู้อยู่ที่ส่วนปลาย
เรียกว่า เส้าเกสร (Staminal column) ยกเว้นพวกรองเท้านารี และกล้วยไม้บางสกุลที่อับเกสรตัวผู้ อยู่
ด้านข้าง
ของเส้าเกสร 2 ข้าง
เกสรตัวผู้ไม่มีลักษณะ เป็นละอองเรณูแบบพืชอื่นๆ
เกสรตัวผู้ประกอบด้วยอับเรณูและละออง
เกสรตัวผู้หรือเรณู
เรณูของดอกกล้วยไม้มีลักษณะแตกต่างกันคือละอองเรณูอาจจะรวมกลุ่มติดกันคล้ายขี้ผึ้งอ่อน
ๆ
หรือละอองเรณูเกาะตัวกันเป็นก้อนแข็งเป็นกลุ่มเรณูเรียกว่าพอลลิเนีย
(pollinia) ในแต่ละอับ เรณูมีฝาปิดสนิท อาจ
มี 2,4 หรือ 8
อันแล้วแต่ชนิดของกล้วยไม้ยอดเกสรตัวเมียจะอยู่ใต้อับเรณู มีลักษณะเป็นแอ่งตื้น
ๆภายในมีน้ำเมือก
เหนียว
(ยกเว้นรองเท้านารีที่มีลักษณะต่างออกไป)
น้ำเมือกนี้จะมีไว้เพื่อช่วยในการผสมพันธุ์ สำหรับยึดเกสรตัวผู้ที่
ตกลงไปในแอ่ง
การผสมเกสรส่วนใหญ่ต้องอาศัยแมลงเข้าช่วสำหรับรังไข่อยู่ตรงส่วนของก้านดอก
ภายในรังไข่จะ
ยังไม่มีการพัฒนาเป็นไข่อ่อนเมื่อมีการผสมเกสรเกิดขึ้นแล้วจึงจะเกิดไข่อ่อน
ขึ้นมาภายในรังไข่รังไข่เพียงช่อเดียว
แต่มีเมล็ดเกาะที่ผนัง 3 แห่ง
เมื่อไข่ได้รับการผสมจาก เกสรตัวผู้จะเจริญไปเป็นเมล็ด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Plumbago
auriculata Lam.
ชื่อสามัญ : Cape leadwort
อาณาจักร : Plantea
ชั้น: Magnoliopsida
ตระกูล : Plumbaginales
วงศ์ : Plumbaginaceae
สกุล : Plumbago
ชนิด : Plumbago auriculata
ลักษณะทั่วไป
ต้นไม้รูปทรงกลมที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์
ซึ่งช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้านได้อย่างน่าประทับใจอีกชนิดหนึ่ง คือ
ต้นพยับหมอก ไม้ดอกไร้กลิ่นที่มีใบสีเขียวเข้ม ตัดกับดอกสีเทาฟ้าสว่างตา
เป็นความโดดเด่นอันยากจะหาต้นไม้ใดเหมือน พยับหมอกมีขนาดทรงพุ่ม 0.5-0.8 ม.
ลำต้นสีน้ำตาลเข้ม มีช่วงในการออกดอกตลอดทั้งปี
และดอกจะบานสะพรั่งงดงามอย่างยิ่งในฤดูหนาว
หลังจากที่หมดดอกควรมีการตัดแต่งเพราะดอกจะแห้งคาต้น
พยับหมอกได้ความนิยมที่จะปลูกเป็นฉากหลังในสวนสน ตำแหน่งที่ปลูกไม่ควรจำกัดความสูง
เพราะถ้าตัดแต่งบ่อยๆ จะไม่มีดอกที่สวยงามให้ชื่นชม
ขยายพันธุ์ : โดยการปักชำกิ่ง หรือตอนกิ่ง
ประโยชน์ : ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่ง
เป็นไม้พุ่มต่ำได้ จะให้ดอกสวยงาม หรือใช้ปลูกริมรั้วจะมีความคงทนมาก ดอก ใช้ประดับแจกัน
วิทยาศาสตร์ Cosmos spp.
ชื่อวงศ์ Asteraceae
ชื่อสามัญ Cosmos,Mexicen Aster
ลักษณะทั่วไป
เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นฉุนไม่มากนักแต่เป็นดอกไม้ที่สามารถที่จะปลูกได้ง่าย
ซึ่งคนส่วนใหญ่จะนิยมนำมาปลูกเป็น “ไม้ประดับ” - ต้น
ดอกดาวกระจายนั้นเป็นไม้พุ่ม เป็นพืชล้มลุก มีความสูงประมาณ 1.5 เมตร
มีลำต้นที่ไม่โตมากจะพลิ้วไหวไปตามลมเวลาที่มีลมพัดมา
- ใบ ของดาวกระจายนั้นจะมีลักษณะใบรูปหอก เว้าลึก
คล้ายใบประกอบแบบขนนก มีสีเขียวเข้ม
- ดอกดาวกระจาย สำหรับดอกดาวกระจายนั้นจะออกเป็นดอกเดี่ยว
ซึ่งมีทั้งแบบกลีบดอกซ้อน และกลีบดอกชั้นเดียว
สำหรับกลับดอกนั้นจะมีขอบกลีบดอกหยักเว้า ดอกดาวกระจายนั้นจะมีหลายสีให้เราเห็นกันค่ะ
เช่น สีส้ม ชมพู เป็นต้น สำหรับดอกดาวกระจายนั้นจะมีขนาดดอกประมาณ 4 – 7
เซนติเมตร การขยายพันธุ์ ดอกดาวกระจายนั้นจะมีการปลูกที่ง่ายมาก
มีการขยายพันธุ์ด้วยการใช้เมล็ดโดยการนำเมล็ดแห้งมาทำการกล้าให้เกิดเป็นต้นอ่อนที่สูงประมาณเท่ากับฝ่ามือของเราแล้วนำไปปลูกได้
จะนิยมปลูกเอาไว้เป็นไม้ประดับตกแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม
และนี่ก็เป็นเรื่องราวของ “ดอกดาวกระจาย”
ที่มีให้คุณเห็นกันค่ะ
ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ให้ความสวยงาม
เวลามองแล้วทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายกับคุณได้ด้วยสีสันของดอกไม้
ดอกคาร์เนชั่น
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dianthus caryophyllus
วงศ์ : Caryophyllaceae
ชื่อสามัญ : Carnation
ชื่ออื่น ๆ : คาร์เนชั่น
ดอกมีขนาดตั้งแต่
1.5 - 3 นิ้ว สีของดอกมีหลายสี
คือ ขาว แดง แดงอมอม่วง และอาจจะมี 2 สีในดอกเดียวกัน
การปลูกและการดูแลรักษา
ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนซุย
มีอินทรีย์วัตถุสูง มีการระบายน้ำดี มีอากาศถ่ายเทดี
เนื่องจากคาร์เนชั่นเป็นโรคได้ง่ายมาก
ดังนั้นเรื่องความสะอาดของดินจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ถ้าเป็นไปได้ควรอบฆ่าเชี้อในดินด้วยไอน้ำ หรือ สารเคมีเช่น methyl bromide ดินควรเป็นกรดเล็กน้อย pH
6.0-7.0
การขยายพันธุ์
การใช้เมล็ด ,การใช้กิ่งปักชำ, การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ตัดเมื่อกลีบดอกชั้นนอกเริ่มตั้งฉากกับกลีบเลี้ยง
เป็นระยะที่กลีบดอกชั้นนอกเริ่มบานแต่กลีบชั้นในเริ่มคลี่ ถ้ามีการใช้สารเคมี Bud opening อาจจะตัดในระยะ "Paint
brush" ซึ่งเป็นระยะที่กลีบดอกชั้นนอกเริ่มคลี่
ในกรณีของคาร์เนชั่นชนิดดอกช่อ (spray
cultivars) ให้ตัดเมื่อดอก
การเก็บรักษา
อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเก็บรักษาดอกคาร์เนชั่น
ที่ยังไม่บานเต็มที่ คือ -0.5 - 0 องศาเซลเซียส โดยเก็บรักษาในสภาพแห้ง (Dry storage) ได้นาน 3-4 สัปดาห์ดอกที่บานเต็มที่อาจจะเก็บ
รักษาที่อุณหภูมิ 3-4
องศาเซลเซียส ในสภาพที่แช่ในสารเคมี ซึ่งจะเก็บรักษาได้นาน 2 สัปดาห์
ดอกแวววิเชียร
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)